Vitamilk Champ

HOME / เคล็ดลับดูแลแชมป์ตัวน้อย / การฝึก EQ ของลูกก็สำคัญไม่แพ้ IQ

การฝึก EQ ของลูกก็สำคัญไม่แพ้ IQ

คุณแม่หลายคนอาจกำลังสนใจเรื่องการฝึกความฉลาดทางเชาว์ปัญญา (IQ- Intelligence Quotient) ให้ลูกน้อยกันอยู่ แต่รู้ไหมว่านอกจากทักษะ IQ แล้ว ยังมีทักษะอีกอย่างที่สำคัญไม่น้อยไปกว่ากัน นั่นก็คือ การที่ลูกเรามีความฉลาดทางอารมณ์ หรือ EQ (Emotional Quotient) เพราะทักษะ EQ นี้จะช่วยเสริมทัพปูทางให้ลูกน้อยก้าวไปสู่ชีวิตที่ประสบความสำเร็จในอนาคต ดังนั้น คุณแม่จึงควรฝึกให้ลูกมีความฉลาดทางอารมณ์ควบคู่ไปด้วย ตั้งแต่วัยเด็กที่เป็นวัยของการเรียนรู้แบบนี้

แต่ก่อนอื่น เราอยากให้คุณแม่รู้จัก EQ หรือ Emotional Quotient กันก่อนว่าคืออะไร แล้วทำไมการฝึก EQ ถึงสำคัญกับลูกน้อย

 

EQ คืออะไร สำคัญต่อลูกน้อยอย่างไร

EQ หรือ Emotional Quotient คือความสามารถในการควบคุมและจัดการอารมณ์ความรู้สึก ที่มีผลต่อบุคลิกภาพ การสื่อสารในการเรียนหรือทำงานด้วย ยิ่งถ้าลูกน้อยของคุณแม่มี EQ สูง ก็จะช่วยให้ลูกเป็นเด็กที่รู้เท่าทันอารมณ์ตัวเอง คือเป็นเด็กที่มีความสามารถในการรับรู้ เข้าใจอารมณ์ของตัวเองและคนอื่น แล้วยังสามารถปรับหรือควบคุมอารมณ์ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ต่างๆ ได้ดี เช่น ถ้าลูกต้องเผชิญกับปัญหาความขัดแย้ง ก็จะรู้วิธีรับมือ หรือจูงใจคู่กรณีให้เย็นลงได้ รวมถึงการมี EQ ดียังช่วยให้ลูกเป็นคนรู้จักมองโลกในแง่ดี และสามารถหาทางให้กำลังใจตัวเองแม้จะประสบอุปสรรคหรือปัญหาได้ ซึ่งเป็นคุณสมบัติสำคัญของคนที่จะประสบความสำเร็จทั้งด้านการงานและการใช้ชีวิต

 

คุณแม่จะช่วยพัฒนาและฝึก EQ ของลูกน้อยได้อย่างไร

ช่วงเวลาที่คุณแม่สามารถฝึกฝนความฉลาดทางอารมณ์ให้ลูกน้อยได้คือ ในเวลาที่ลูกกำลังมีอารมณ์นั้นๆ เกิดขึ้นอยู่ไม่ว่าจะเป็นอารมณ์ด้านดี เช่น มีความสุข ตื่นเต้น หรืออารมณ์ด้านลบ เช่น โกรธ เสียใจ เพราะลูกจะเรียนรู้และเข้าใจได้ดีกว่า โดย

  • คุณแม่ต้องรับฟังความรู้สึกของลูกเป็น

เมื่อลูกน้อยเกิดอยากบอกเล่าอารมณ์ความรู้สึกให้คุณแม่ฟัง คุณแม่ควรตั้งใจฟังความรู้สึกที่ลูกบอก แล้วถ้าหากเป็นความรู้สึกที่ไม่ดี คุณแม่ควรบอกลูกให้รู้ว่าไม่ผิดที่ลูกจะรู้สึกอย่างนั้น และอธิบายเหตุผลที่เป็นความจริงให้ลูกเรียนรู้ รวมถึงพูดให้ลูกรับรู้ว่าคุณแม่เข้าใจและใส่ใจความรู้สึกของเขาแล้ว เช่น “แม่เข้าใจที่ลูกรู้สึกผิดหวังที่แม่ผิดสัญญา ลูกคงน้อยใจมาก” เป็นต้น

 

  • สอนให้ลูกรู้จักแยกแยะอารมณ์ดีและไม่ดีของตัวเองเป็น

ถ้าลูกกำลังโกรธ คุณแม่ควรบอกลูกให้รู้ตัวว่าลูกกำลังโกรธเพราะอะไร พร้อมกับสอนให้ลูกรู้ว่าถ้าเกิดลูกไม่ควบคุมอารมณ์ตัวเองในสถานการณ์นั้นๆ จะเกิดผลอะไรขึ้นบ้างกับตัวเองหรือคนอื่น

 

  • สอนให้ลูกรู้ว่าลูกสามารถแสดงออกทางพฤติกรรมได้มากน้อยแค่ไหน

คุณแม่ควรสอนให้ลูกเรียนรู้ว่าสามารถแสดงออกถึงความรู้สึกผ่านทางพฤติกรรมต่างๆ ได้มากน้อยแค่ไหน แล้วพฤติกรรมแบบไหนที่ไม่ควรทำ

 

  • ฝึกให้ลูกมีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดี

ถ้าลูกของคุณแม่เป็นเด็กที่มีอัธยาศัยดี ก็จะรู้จักใส่ใจและเห็นใจความรู้สึกของคนอื่นเป็น จะช่วยให้ลูกรู้จักรับมือกับอารมณ์ความรู้สึกของคนอื่นได้ อย่างเช่น คุณแม่อาจจะเริ่มต้นสอนให้ลูกรู้จักแบ่งปันของเล่นกับพี่น้อง หรือเพื่อน ให้ลูกน้อยเริ่มเรียนรู้จากสิ่งแวดล้อมใกล้ตัว

 

สิ่งเหล่านี้ คุณแม่สามารถฝึกให้ลูกน้อยเริ่มเรียนรู้ได้ตั้งแต่ยังเล็ก เพื่อที่จะได้ค่อยๆ พัฒนาฝึก EQ ควบคู่ไปกับทักษะสำคัญด้านอื่นๆ รวมถึงอย่าลืมให้ลูกได้รับโภชนาการสารอาหารที่ดีเพื่อการเรียนรู้เติบโตสมวัยในทุกด้าน อย่างการให้ลูกน้อยดื่มนมไวตามิ้ลค์แชมป์เป็นประจำทุกวัน เพราะไวตามิ้ลค์แชมป์มีโปรตีนและแคลเซียมสูงดีต่อการเจริญเติบโตของร่างกายและสมอง ให้ลูกน้อยพร้อมก้าวเดินสู่อนาคตที่สดใส

 

https://th.theasianparent.com/วิธีเพิ่ม-eq-ให้ลูก

https://www.si.mahidol.ac.th/sidoctor/e-pl/articledetail.asp?id=684